นักวิชาการ-สื่อจี้รัฐบริหารโปร่งใสสร้างความเชื่อมั่น

“นักวิชาการ-สื่อ”ยกปัญหาประเทศชาติที่รัฐบาลใหม่ต้องทำ “โคทม”แนะนำรัฐสวัสดิการดูแลประชาชนจำกัดทุนนิยมเสรี “อนุสรณ์”พยากรณ์เศรษฐกิจตกวูบไตรมาส 2 ชี้รัฐต้องบริหารโปร่งใสสร้างความเชื่อมั่นประชาชน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : วานนี้( 21ม.ค.) ที่สถาบันปรีดีพนมยงค์ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับสถาบันปรีดี พนมยงค์ และหนังสือพิมพ์มติชนได้จัดสัมมนาเรื่อง “แนวทางแก้ไข 6ปัญหาเร่งด่วน ของรัฐบาลชุดใหม่” โดยมีการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมเพื่อเป็นทางออกของประเทศไทย

นาย โคทม อารียา ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึงแนวทางเร่งด่วนของรัฐบาลที่สุดควรไปดำเนินการแก้ไขปัญหาของชาติในระยะสั้นระยะยาวว่า การแก้ไขปัญหาประเทศชาติไม่ควรเน้นการใช้นโยบายประชานิยมที่ช่วยประชาชนแค่ชั่วครั้งชั่วคราว เพราะจะทำให้เกิดประสบปัญหาอย่างอดีตที่ผ่านมา โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า การกระตุ้นให้ประเทศชาติก้าวไปสู่ระบอบทุนนิยมเสรีอย่างเต็มที่ไม่เหมาะกับสถานภาพปัจจุบันของไทย การเปิดเสรีแล้วต้องไปขายสมบัติของชาติก็คงทำไม่ได้ ดังนั้นควรที่จะจำกัดทุนนิยมเสรีให้เป็นไปอย่างพอดี และควรนำเอาระบบแบบรัฐสวัสดิการมาใช้แม้จะเป็นแนวคิดแบบสังคมนิยมก็ตาม เพื่อที่จะดูแลประชาชนให้ได้รับความสะดวกสบาย

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับปัญหาการเมืองเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลควรไปสร้างความมั่นใจให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า คณะรัฐมนตรีที่เข้ามาทำงานจะไม่ทุจริตคอรัปชั่น มาโกงกินชาติบ้านเมือง ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทำให้รับรู้สึกไว้วางใจต่อรัฐบาล นอกจากนี้รัฐบาลต้องสนับสนุนการเมืองภาคประชาชนได้มีเวทีการแสดงออกเติบโตเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง ป้องกันไม่ให้ประชาชนรู้สึกเบื่อการเมือง

“รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงานแก้ปัญหาชาติอยู่ในช่วงของการใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ที่ประเทศมีปัญหาด้านค่าเงิน พลังงานน้ำมันราคาสูง คุณภาพการศึกษาของประชาชนต่ำ ประชาชนมีความแตกแยกทางความคิดไม่มีความสมานฉันท์ ผู้ที่กำลังมาเป็นนายกรัฐมนตรีมีลักษณะพูดจาโผงผาง เมื่อผู้นำประเทศต่อไปคงทำเหมือนเดิมไม่ได้ แต่ควรตระหนักว่า เป็นตัวแทนของประชาชน 63 ล้านคน ไม่ใช่คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด คณะรัฐมนตรีต้องเป็นคนที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ ถ้าประชาชนไม่ไว้วางใจปัญหาจะซำรอยอย่างอดีต โดยสิ่งแรกที่ควรทำก่อนคือการแก้ปัญหาของชาติ ควรเร่งสร้างความสมานฉันท์ให้มีขึ้นในเหล่าประชาชน เน้นแก้ปัญหาสังคม ส่วนปัญหาเศรษฐกิจสังคมควรแก้ไขเป็นสิ่งต่อไป เพราะต้องใช้เวลามากในการดำเนินการ”นายโคทม กล่าว

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณะบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ต้องหยุดความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมยุติการเผชิญหน้าการแบ่งฝ่าย ผลักดันเศรษฐกิจขยายการลงทุนให้เติบโตอย่างเหมาะสม จากการวิเคราะห์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2551 จะมีปัญหาของการขาดทุนของโรงงาน ตรงนี้จะส่งผลให้มีพนักงานตกงานมาก ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อกำลงจะเกิดขึ้น ดังนั้นรัฐบาลใหม่ต้องสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ โดยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ไม่ให้มีลักษณะมีการรวยแบบกระจุกจนกระจายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน สิ่งที่สำคัญเราต้องสนับสนุนให้ประชาชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นเป็นไปตามกลไกประชาธิปไตยรัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซง ยึดประโยน์ประชาชนเป็นหลักปัญหาต่างๆจะมีทางออกไปในสิ่งที่ดี

นายบุญเลิศ ช้างใหญ่ บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์มติชน กล่าวว่า ภายหลังการเปิดประชุมรัฐสภา โหวตเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี มีรัฐบาลคณะรัฐมนตรีเข้าทำงานปัญหาสังคมที่มีการฆ่า ตีกัน สาดน้ำกรด เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น รัฐบาลต้องเป็นแกนนำมีมตราการดำเนินการแก้ไขแถลงเป็นนโยบายจัดการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะนายสมัคร สุนทรเวช ว่าที่นายกรัฐมนตรีที่มีแนวโน้มชัดเจนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องหยุดการพูดในลักษณะการทะเลาะเบาะแว้งแล้วลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง หากย้อนมองอดีตที่เกิดการรัฐประหารจะเห็นได้ว่าเกิดจากการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้องของผู้นำ คณะรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลมีการทุจริตคอรัปชั่น ตลอดจนการเข้าไปแทรกแซงการทำงานของทหารอาชีพ เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมหรือการเช็คบิลกองทัพ เป็นต้น ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องปรับปรุงพฤติกรรมในอดีตทำในสิ่งที่ควรทำไม่ใช่ไปทำสิ่งที่ประชาชนไม่ชอบเช่น การไปนิรโทษกรรมกรรมการบริหารพรรค 111 คนหรือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเอื้อให้คนเพียงคนเดียว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 21 มกราคม พ.ศ. 2551 20:06:00

แท็ก คำค้นหา