องค์กรวิชาชีพฯห่วงสื่อเสี่ยงถูกคุกคาม แนะผู้ได้รับผลกระทบ ร้องผ่านสภาวิชาชีพ

111

นายวิสุทธิ์  คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่าในวันนี้(๑๖ มี.ค.๒๕๕๕) ตัวแทนองค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วย นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์สื่อในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในประเด็นภาพรวมของการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน การแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ตลอดจนสถานการณ์คุกคามสื่อในรูปแบบที่มีความแตกต่างหลากหลายมากขึ้นที่ประชุมมีข้อสรุปว่า

 

๑. องค์กรผู้ประกอบวิชาชีพสื่อให้ความสนใจ และไม่เห็นด้วยกับการคุกคามสื่อมวลชนในทุกรูปแบบเพื่อให้สื่อมวลชนมีความเป็นอิสระไม่ตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวใดๆ เพราะการที่สื่อมวลชนไม่สามารถทำหน้าที่ได้โดยอิสระและปราศจากความหวาดกลัว ย่อมทำให้ประชาชนผู้รับข้อมูลข่าวสารเสียโอกาสในการได้รับทราบข่าวสารที่เป็นจริงและไม่ได้รับรู้รับทราบการแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา เมื่อประชาชนไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นที่ครบถ้วนรอบด้านเสียแล้ว สิ่งที่จะตามมาคือ ความเข้าใจผิดจากการที่ได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน และความเข้าใจผิดนี้ก็อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งจนถึงขั้นมีการใช้ความรุนแรงระหว่างประชาชนกับประชาชน

 

๒. กรณีที่พบว่าผู้ประกอบวิชาชีพคนใดปฏิบัติตนไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ผู้ได้รับความเสียหายหรือไม่พอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพคนใด สามารถใช้สิทธิร้องเรียนผ่านสภาวิชาชีพที่มีอยู่ทั้งสองสภาคือ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพให้ปฏิบัติงานตามมาตรฐานจริยธรรม ตามขั้นตอนกระบวนการที่มีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้ร้องเรียนจะได้รับความเป็นธรรม และมีบทลงโทษกำหนดไว้ชัดแจ้ง อีกทั้งยังมีหลักประกันว่ากรรมการผู้รับเรื่องร้องเรียนจะมีความเป็นกลางและเป็นธรรมเพราะประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยประเด็นที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญคือ สื่อมวลชนที่แท้จริงไม่ใช่คู่ขัดแย้งหรือคู่กรณีของฝ่ายใด

“นอกจากนี้องค์กรวิชาชีพสื่อทั้งสี่องค์กรยังแสดงความเป็นห่วงมายังผู้ประกอบวิชาชีพว่า การแสดงความคิดเห็นส่วนตัวทางการเมืองที่ปรากฏต่อสาธารณชนนั้น สื่อมวลชนพึงตระหนักว่าจักต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง”  นายวิสุทธิ์กล่าว

แท็ก คำค้นหา