แถลงการณ์ร่วม
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
เรื่อง หยุดลิดรอนเสรีภาพสื่อและประชาชน ทบทวนคำสั่งพักใบอนุญาต วอยซ์ทีวี ทำลายบรรยากาศประชาธิปไตย
เนื่องจากกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต วอยซ์ทีวี เป็นเวลา 15 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้เป็นการพิจารณาภายใต้กฎหมาย โดยกสทช.ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งหากยังไม่ปรับปรุงจะเพิ่มโทษอีก หรือถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต รายการที่กสทช. อ้างเป็นเหตุพักใบอนุญาต วอยซ์ทีวี 2 รายการ คือรายการ Tonight Thailand ออกอากาศวันที่ 16 ธันวาคม 2561 และรายการ WAKE UP THAILAND ออกอากาศวันที่ 21,28,29 มกราคม และ 4 กุมภาพันธ์ 2562เนื่องจากเป็นการนำเสนอรายงานข่าวที่มีลักษณะส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน จึงขอคัดค้านคำสั่งดังกล่าวของกสทช. ที่สั่งพักใช้ใบอนุญาตวอยซ์ทีวีเป็นระยะเวลา15วัน มีผลตั้งแต่วันที่13กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1.การใช้ดุลพินิจพักการใช้ใบอนุญาต วอยซ์ทีวีครั้งนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบวอยซ์ทีวีในฐานเป็นองค์กรธุรกิจและองค์กรสื่อ ที่มีคนทำงานอยู่ในหลายส่วน อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของรายการ หรือมีส่วนรับรู้ในการกระทำของพิธีกรรายการ แต่ได้รับผลกระทบไปด้วย แค่สั่งกสทช.ใช้อำนาจสั่งพักรายการบางรายของวอยซ์ ทีวี ยังก่อให้เกิดผลกระทบในการทำหน้าที่ของสื่อโดยตรง แต่การใช้อำนาจสั่งพักใบอนุญาตวอยซ์ ทีวี ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่รุ่นแรงยิ่งกว่า ดังนั้นกสทช. ที่เป็นองค์กรให้ใบอนุญาตกับผู้ประกอบการสื่อ และกำกับผู้ได้รับใบอนุญาต หากไม่ระมัดระวังในการใช้อำนาจ ย่อมเป็นองค์กรที่ทำลายเสรีภาพของสื่อและองค์กรธุรกิจเสียเอง
ในกรณีของวอยซ์ ทีวี หากรายการใดมีปัญหาควรพิจารณาเป็นกรณีไป ไม่ควรใช้อำนาจพักใบอนุญาตทั้งสถานี หรือหากการนำเสนอเนื้อหาของวอยซ์ ทีวี หรือทีวีช่องใด มีผลกระทบต่อความมั่นคง หรือละเมิดสิทธิบุคคล หมิ่นประมาทบุคคลอื่น ผู้เสียหายหรือผู้มีส่วนได้เสีย ก็ชอบที่จะใช้สิทธิแจ้งความดำเนินคดีหรือฟ้องร้องตามกฎหมายปกติได้
2.คำสั่งของกสทช.ยังขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่รับรองบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และใช้เสรีภาพเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพจะกระทำมิได้ ดังนั้นการใช้อำนาจของกสทช.ออกคำสั่งครั้งนี้ ย่อมขัดแย้งกับหลักการพื้นฐานในการรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน และกระทบต่อการรับรู้ข่าวสารของประชาชน โดยขณะนี้บรรยากาศช่วงรณรงค์หาเสียงควรเอื้อต่อการแสดงความคิดเห็นของสื่อและประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน
3.ขอเรียกร้องสื่อมวลชนทุกแขนงต้องทำหน้าที่รายงานข่าวสารอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย สื่อต้องระมัดระวังในการรายงานข่าวเลือกตั้ง ไม่ให้มีภาพว่าเข้าข้างหรือเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่ผู้สมัครส.ส.หลายคน มีผู้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในบัญชีของพรรคต่างๆหลายคน และหลีกเลี่ยงการรายงานข่าว ใช้วาทกรรมสร้างคามเกลียดชังให้กับคนในชาติ ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง
จากเหตุผลดังกล่าว สมาคมทั้งสามขอเรียกร้องให้กสทช.ได้ทำหน้าที่ในฐานะองค์กรอิสระอย่างแท้จริง ใช้อำนาจด้วยความเป็นธรรม ไม่เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ โดยเร่งทบทวนคำสั่งพักใบอนุญาต วอยซ์ทีวี เพื่อให้สังคมไทยได้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งด้วยบรรยากาศที่เกื้อหนุนและเปิดกว้างในการแสดงความคิด ความเห็นของสื่อและประชาชน ต่อไป
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
13 กุมภาพันธ์ 2562
แถลงการณ์ร่วม การลิดรอนสื่อฯ 620213-statment-tja