บทบาทสื่อมวลชนในสถานการณ์ปัจจุบัน

แถลงการณ์ร่วมองค์กรวิชาชีพ เรื่อง บทบาทสื่อมวลชนในสถานการณ์ปัจจุบัน
สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันที่อยู่ในสภาพสับสนและเต็มไปด้วยความไม่ชัดเจนแน่นอน อันเนื่องมาจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน มีแนวโน้มซึ่งอาจนำไปสู่ความแตกแยกที่รุนแรงยิ่งขึ้น ผลแห่งสถานการณ์ดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดความเป็นกังวลมากขึ้นในสังคมไทยขณะนี้ คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ประชุมหารือร่วมกับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2549
ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่า นอกจากการเข้ามาควบคุมและใช้ประโยชน์จากสื่อมวลชนที่มีหน่วยงานของรัฐเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะสื่อวิทยุ และโทรทัศน์แล้ว ขณะเดียวกันก็มีความพยายามจะสร้างสื่ออื่นที่รัฐไม่ได้ควบคุมอย่างทั่วถึง อาทิ สื่อหนังสือพิมพ์ สื่ออินเตอร์เน็ต และสื่อข้อความสั้น (SMS) ซึ่งถือเป็นการสร้าง “สื่อเทียม” ที่เครือข่ายนักการเมืองพยายามใช้ประโยชน์สนองตอบเป้าหมายทางการเมืองของตนมากกว่าประโยชน์สาธารณะ จนสร้างความสับสนให้หลงเชื่อว่าสื่อมวลชนมีความแตกแยกเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาล กับฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล อันเป็นพฤติกรรมที่เคยเกิดขึ้นและนำไปสู่ความรุนแรงในชาติมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในอดีต

ที่ประชุมขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน จึงมีมติให้ออกแถลงการณ์ดังต่อไปนี้
1. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งสาม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งและการเผชิญหน้าท้าทายของฝ่ายต่างๆ ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงอันจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยโดยรวม

2. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งสาม ได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่สำคัญของสื่อมวลชนในยุคปัจจุบัน ที่จะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลและนำเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ภายใต้สถานการณ์อันสลับซับซ้อน เพื่อนำเสนอความเป็นจริงของปัญหามาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้ให้มากที่สุด

3. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งสามตระหนักดีว่า สื่อมวลชนที่ยึดมั่นในจริยธรรมแห่งวิชาชีพได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างตรงไปตรงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการรายงานเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือการรุมทำร้ายกลุ่มประชาชนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งผลของการทำหน้าที่ดังกล่าวทำให้สื่อมวลชนตกเป็นเป้าของการข่มขู่คุกคาม การใช้กำลังคนปิดล้อมสำนักพิมพ์ และการกล่าวร้ายทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อมวลชน โดยนักการเมืองและข้าราชการประจำที่ตกอยู่ใต้อำนาจของนักการเมืองตลอดมา

4. สถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นตอกย้ำถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทุกองค์กรจะต้องผนึกกำลังกัน ปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต บนพื้นฐานของจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองโดยสันติวิธี

สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
4 กันยายน 2549

 

แท็ก คำค้นหา