ให้ทบทวนมาตรการของกรมประชาสัมพันธ์ที่รับจดทะเบียนและอนุญาตให้มีโฆษณาในวิทยุชุมชน

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยออกแถลงการณ์ทวงถามรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ต่อประเด็นกรมประชาสัมพันธ์ ประกาศรับจดทะเบียนวิทยุชุมชนและอนุญาตให้มีโฆษณา หลังส่งหนังสือร้องเรียนและไม่มีความคืบหน้า ขณะใกล้เส้นตายสิ้นเดือนนี้ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยทวงสัญญา รองนายกฯวิษณุ ให้ทบทวนมาตรการของกรมประชาสัมพันธ์ที่รับจดทะเบียนและอนุญาตให้มีโฆษณาในวิทยุชุมชน

หลังจากที่สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ทำหนังสือร้องเรียนไปยังรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของกรมประชาสัมพันธ์และทบทวนมาตรการรับจดทะเบียนและอนุญาตให้มีโฆษณาในวิทยุชุมชนเมื่อวันที่ 26 พ.ย.47 ด้วยเหตุผลว่า อำนาจในการออกใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่เป็นหน้าที่ของกสช. มิใช่กรมประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ เงื่อนไขในสัญญา หลายประการไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เช่นการอนุญาตให้มีโฆษณาได้ชั่วโมงละไม่เกิน 6 นาที การจ่ายค่าธรรมเนียมและเงินประกันสถานี การสอบใบผู้ประกาศ การเก็บเทปหลังออกอากาศ อย่างน้อย 15 วัน และต้องให้ความร่วมมือกับกรมประชาสัมพันธ์เพื่อถ่ายทอดรายการจากส่วนกลาง ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น ข้อกำหนดให้มีโฆษณา จะกลาย เป็นช่องทางให้กลุ่มการเมืองและกลุ่มทุน ฉกฉวยโอกาสมาแทรกแซงและใช้วิทยุชุมชนเพื่อประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ อีกทั้งทำลายกระบวนการเรียนรู้ของภาคประชาชน

จากนั้น กรมประชาสัมพันธ์ได้นัดหารือฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 47 ที่ผ่านมาซึ่งมีการแสดงความเห็นอย่างหลากหลายทั้งจากผู้แทนสหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ นักวิชาการ สมาคมวิชาชีพและองค์กรเอกชน โดยสรุปต่างไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่กรมประชาสัมพันธ์กำหนดขึ้น ซึ่งรองนายกฯรับปากว่าจะนำความเห็นดังกล่าวไปพิจารณาและทบทวนอีกครั้ง แต่จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในขณะที่ใกล้จะครบกำหนดเส้นตายซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ระบุไว้ ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2547 นี้

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ทีเกิดขึ้นและเห็นว่า หากยังไม่มีการตัดสินใจใดๆจากภาครัฐก็จะส่งผลเสียหายร้ายแรงติดตามมา

ดังนั้น สมาคมฯ จึงเรียกร้องไปยังรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองามและ กรมประชาสัมพันธ์ขอให้ยกเลิกระเบียบดังกล่าว โดยเร็วที่สุด และกำหนดกติกาใหม่โดยอยู่ภายใต้หลักการว่า วิทยุชุมชน ต้องไม่มีโฆษณา ทั้งนี้จะต้องหารือร่วมกับผู้แทนภาคประชาชนและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้หลักเกณฑ์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นจริง อีกทั้งจะเป็นการสนับสนุนการเกิดและการเรียนรู้ของภาคประชาชนที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยืนยันอีกครั้งว่า สมาคมฯสนับสนุนการเกิดของวิทยุชุมชน แต่ต้องเป็นกระบวนการที่สอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า ประชาชนมีสิทธิในการใช้คลื่นความถี่ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ เพื่อสื่อสารได้อย่างเสรี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องวิทยุชุมชน ของกรมกประชาสัมพันธ์ ในวันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2547 นี้ จะ ได้นำข้อเสนอดังกล่าวของสมาคมฯ รวมทั้งความเห็นจากองค์กรต่างๆ ไปประกอบการพิจารณาเพื่อตัดสินใจด้วยเช่นกัน

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

23 ธันวาคม 2547