สมโภชน์ โตรักษา ผู้สื่อข่าวช่อง 7 พบเลขาธิการสภาทนายความ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ หลังถูก อบจ.สมุทรปราการ แจ้งความดำเนินคดีจากการนำเสนอข่าวทุจริตติดตามกลโกง วันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2013 เวลา 15:51 น. administrator2 PDF

2logoweb2 (1)

วันนี้(13 ส.ค.56) นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, พร้อมด้วย นายสมโภชน์    โตรักษา ผู้ช่วยหัวหน้ากองบรรณาธิการ ผู้ดำเนินรายการคอลัมน์หมายเลข 7 ต้านทุจริตตามติดกลโกง สถานีโทรทัศน์ช่อง 7

เข้าพบ  นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอรับความช่วยเหลือการจัดหาทนายความในชั้นสอบสวนและในชั้นศาล ภายหลังจาก นายสมโภชน์    โตรักษา ถูก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.  แจ้งความต่อ สภอ.เมืองสมุทรปราการ ในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีเสนอสารคดีข่าวสืบสวนสอบสวน ติดตามการทุจริตงานก่อสร้างวัดแห่งหนึ่ง และตำรวจได้ออกหมายเรียก นายสมโภชน์ ไปแจ้งข้อหาในวันนี้

 

นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความได้ทำบันทึกความร่วมมือด้านอรรถคดีและวิชาการกับสองสมาคม คือ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นคดีที่สื่อมวลชนถูกคุกคามข่มขู่เกี่ยวละเมิดสิทธิเสรีภาพในการเสนอข่าว โดยทางสภาทนายความจะจัดหาทนายความให้สื่อมวลชนเพื่อคลายความวิตกกังวลจะได้ปฏิบัติหน้าที่ในการนำความจริงมาเสนอแก่ประชาชนต่อไปโดยปราศจากความกลัว กรณี นายสมโภชน์ ถือว่าเป็นข่าวเจาะในประเด็นทุจริตซึ่งถือว่าต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา สภาทนายความรับข้อเท็จจริงจากสมาคมไว้แล้วและจัดคณะทำงานมีนายสุชาติ ชมกุล ประธานสภาทนายความภาค1 เป็นหัวหน้านำทนายความพา นายสมโภชน์ ไปพบพนักงานสอบสวนแล้ว

นายสมโภชน์ กล่าวว่า คดีนี้มี อบจ.สมุทรปราการ กล่าวหาว่าตนหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีรายการ ”คอลัมน์หมายเลข 7 ต้านทุจริตตามติดกลโกง ” ซึ่งเปิดโปงเรื่องการพบพิรุธเงินอุดหนุนวัดในจังหวัดสมุทรปราการ รวม 9 ตอน เพราะเป็นเรื่องที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ และมีการก่อสร้างอาคารล่าช้าโดยไม่มีการเรียกค่าปรับผู้รับเหมา ไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้เกี่ยวข้อง แต่ตนกลับถูกแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าตนเสนอข่าวสารคดีโดยสุจริตไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ข่าวนี้กลับเป็นผลดีแก่วัด เพราะเมื่อข่าวเผยแพร่ออกไป ก็เริ่มมีการก่อสร้างอาคารตามกำหนด แม้การแจ้งความเป็นสิทธิ์ของผู้ร้องทุกข์ แต่ตนก็ต้องต่อสู้คดีเพื่อปกป้องวิชาชีพสื่อในฐานะที่ตนเป็นสื่อมวลชนคนหนึ่ง

“ผมยืนยันว่าการนำเสนอข่าวของผมในเรื่องนี้ เป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักฐานไม่ได้มีเจตนาที่จะไปใส่ร้ายใครแม้แต่น้อย ซึ่งขั้นตอนการทำงานจะต้องผ่านการตรวจสอบก่อนจะนำเสนอออกไป และมั่นใจว่าการเสนอข่าวเรื่องเงินสนับสนุนวัดเป็นไปด้วยความสุจริต และเพื่อประโยชน์สาธารณะ สิ่งที่ผมทำเป็นการปกป้องวิชาชีพสื่อมวลชน” นายสมโภชน์ กล่าว

ด้านนายเจษฎา อนุจารี อุปนายกฝ่ายนโยบายและแผนงาน สภาทนายความ ในพระบรม   ราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “สื่อมวลชนต้องมีความกล้าหาญมากกว่าคนอื่นๆ และขอสื่อมวลชนยืนหยัดในความกล้าที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ ทำความเป็นให้ปรากฏเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ ในกรณีของ นายสมโภชน์ ผู้ถูกกล่าวหาคือ นายสมโภชน์ มีสิทธิที่จะไปพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการทางกฎหมายและศาล”

ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าว นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ และ นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ ได้มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ นายสมโภชน์ และกล่าวว่า “ขอเป็นกำลังใจแก่สื่อมวลชนที่กล้าหาญขุดคุ้ยความจริง และถือว่าเป็นคดีแรกที่สื่อมวลชนมาขอใช้สิทธิ์ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างสภาทนายความกับองค์กรสื่อ โดยจะมีการติดตามช่วยเหลือเรื่องนี้ต่อไปจนถึงที่สุด”

 

แท็ก คำค้นหา